วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เลิกคิดถึงคนรักเก่าที่ไม่ควรคิดถึง

ระหว่างหยุดรักคนใหม่ที่ไม่ควรรัก

กับเลิกคิดถึงคนเก่าที่ไม่ควรคิดถึง

อย่างไหนยากกว่ากัน?

 




ความรักอันเกิดจากความถูกตาต้องใจ
สลับกับความแค้นเคืองอันเจือด้วยอารมณ์ถวิลหา
ถ้าหากต้องมาคิดว่า  ความรู้สึกที่คิดถึงนั้น เป็นสิ่งต้องห้าม
เหมือนเกินเอิ้อมคว้าเท่าไหร่ ไขว่คว้ายังไงก็ไม่มีวันได้มา

ความคิดแบบนั้นก็จะก่อแรงดึงดูดให้ฟุ้งซ่านผิดปกติ
คิดในเรื่องที่อยากได้แต่ไขว่คว้ามาไม่ได้
จึงมีจิตที่ฟุ้งซ่านผิดปกติ
กลับไปกลับมาระหว่างอยากเลิกติดต่อกับอาลัย เสียดาย
ความยึดมั่น เหนียวแน่น
ในคนที่เราคิดว่าเขาคือของรักของเรา เราอยากได้เขา
ความยืดแบบนี้เรียกว่า "จิตอยู่ในสภาพมืดแปดด้าน"

คล้ายต้องดิ้นทุรนทุรายหาทางออกอยู่ในห้องปิดตายมืดทึบ
เมื่อถูกร้อยรัดอยู่ด้วยโซ่ แห่งความอยากได้ (ราคะ)
สลับกับถูกร้อยรัดโซ่ ที่แค้นเคืองในความไม่ดีที่ได้ทำร้ายใจเรา ( โทสะ )             
ราคะ โทสะ นั้นเหมือนๆกัน
ไม่ว่าจะเป็นของเก่าหรือของใหม่
จะเป็นคนรักที่รอคอยแต่เธอ
หรือคนเกลียดที่อยากสาปแช่งเข้าไส้
ก็แกะยากเท่ากันหมด


สลัดให้หลุดจากหัว ที่มาในความคิด แทบ "ไม่ไหว"เหมือนกันหมด

ถ้าแรงส่งอยากประพฤติผิดทางกาย
อยากผิดศีลข้อ3   ก็ห้ามเสีย
เพื่อให้ตัวเองไม่ต้องตกนรกทางใจในภายหลัง

แต่ถ้าใจนั้นอยากหยุดรักผิดคน
หรืออยากหยุดคิดถึงคนผิด

ก็ไม่ต้องอย่าห้ามใจ
การห้ามใจจะทำให้ทุกข์นั้น เพิ่มเป็นทวีคูณ
เหมือนคุณอยากคุย อยากส่งข้อความ อยากโทรหา
อยากใกล้ชิด อยากเจอเขา แล้วคุณไปห้าม
คุณก็จะดิ้นร้น เป็นเฮือกๆ ปั่นป่วนทุรนทุราย ประมาณโดนผีสิงใจ
การห้ามใจจึงเป็นความทรมาณตัวเองที่ไม่พึงทำ
เพราะคุณจะติดอยู่ในอาการอยากเจอ ห่วงหาอาลัยใจจะขาด
กับอาการอยากกลับหันเสมอ

เพื่อจะหยุดคิดถึง หรือเพื่อจะหยุดรัก
ให้หยุดใช้วิธีห้ามใจ

แต่ให้เปลี่ยนมาใช้วิธี
คือการนำความสุขที่แท้จริง
ไปเอาชนะความสุขที่ผิดพลาด


ความสุขที่แท้จริงนั้น หญ้าขอยกจากบทความ
ของคุณดังตฤณคือ
‘การเห็นความทุกข์ไม่เที่ยง คือยอดแห่งสุข’


จากนั้นให้เอาใจจดใจจ่อดูทุกข์ ตลอดวัน
จะเป็นความทุกข์จากการรักคนไม่ควรรักก็ดี
หรือความทุกข์จากการคิดถึงคนไม่ควรคิดถึงก็ดี
เห็นให้ชัดว่าความทุกข์ไม่เที่ยงจริงๆ
ไม่ต่างจากฝนฟ้าและพายุ
ให้หนักหนาก็ต้องซาลง


การดูลมหายใจนั้น ให้นั่งสบาย พิงหลังก้ได้
แล้วหลับตานิ่งๆ พริ้มตาเบาที่สุด
ผ่อนคลาย ฝ่าเท้า ฝ่ามือ หัวไหล่ และหน้าผาก
เพิ่งดูทั้งหน้าอย่ามีส่วนใดส่วนหนึงของใบหน้าเกร็ง
จากกนั้นก็ดูว่าตอนนั้น ลมหายใจเข้าหรือออก
โดยมากเราดูลมหายใจเข้า ไม่ทันหรอก
ก็ให้จับที่ลมหายใจจะชัดเจนและเป็นธรรมชาติกว่า
แล้วดูว่าลมหายใจเป็นแบบใด
เป็นแบบแฝงความอาลัย ใจจะขาด
หรือเป็นแบบโศกเศร้า เสียใจ
จำเอาไว้แล้วสังเกตุในในลมหายใจถัดไป
ว่ายังหายใจแบบเดิมเท่าเดิมหรือไม่
ถ้าลมหายใจแปรเปลี่ยนไม่เท่าเดิมในแต่ละครั้งจริง
ก็หมายความว่า ลมหายใจกำลังแสดงความจริง
เพื่อบอกว่าความทุกข์ในลมหายใจนั้นไม่เท่าเดิม
เป็นการเห็นความทุกข์ว่าไม่เที่ยงจริงๆ


จากนั้นจะให้ดูลมหายใจที่มันเสียดแทงด้วยความทุกข์
ว่ามันเปนของไม่น่ายืดเพียงใด แต่ละครั้งก็มีไม่เท่ากัน
ขึ้นอยู่กับความดันในหน้าอก หรือความคิดเสียดแทงในหัว
จากนั้นจะสังเกตุเห็นความรู้สึกโปร่งโล่ง เป็นอิสระทีละนิด
ลมหายใจเริ่มเบาและเป็นธรรมชาติก็จะรู้สึกดีกว่าตอนที่
จิตดิ้นรน ลมหายใจบีบแหลมเหมือนหนามให้ทุกข์
เห็นระหว่างใจเป็นทุกข์สลับกับใจมีอิสระไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งจิตฉลาดแหลมคมขึ้น
มีสติแจ่มใสขึ้นจากการเห็นถนัดว่า ‘ไม่ยึดดีกว่า’
ยึดแล้ว โครตจะทุกข์เลย
ถึงเวลานั้นก็จะพบสุขจริงแท้ จากการไม่ยึด ไม่ผูกมัด ไม่อยากได้เอง

ขอให้ท่านที่อ่านได้ลองทำตามแล้วจะเข้าใจเองค่ะ 

บทความโดยดอกหญ้าในป่าหนาว

บทความในหมวดที่เกี่ยวข้อง

 ดูสารบัญ บทความทั้งหมด ได้ที่นี่ CLICK

กิ๊ก ชู้ ศีลข้อ3 ผิดศีล เจ้าชู้  หล่อ ดูดี รักจริง จริงใจ  อกหัก ทำยังไงดี อยากหาย อยากดีขึ้นอยากเลิกคิดถึง  ตัดใจ หยุดคิดถึง คิดถึง นอกใจ แฟนนอกใจ สามีนอกใจ  แค้น  รักแท้  จริงใจ คู่บูญ คู่เวร คู่กรรม คู่ทรมาณ  คนรัก เวร กรรม กรรมสนอง pantip  ดอกหญ้าในป่าหนาว     เกลียดพ่อ เกลียดแม่ พ่อแม่รังแกฉัน toxic parent ปรับตัว   http://dokyaincoolwood.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น